จากในบทความก่อนหน้านี้ นิพจน์จะเป็นชนิดข้อมูลประเภทเดียวกันทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วนิพจน์สามารถประกอบด้วยข้อมูลชนิดที่แตกต่างกันได้ เราจะเรียกว่า mixed type expression แต่หลักการของโอเปอเรเตอร์นั้น โอเปแรนด์ที่จะนํามาดําเนินการด้วยโอเปอเรเตอร์จะต้องมีชนิดข้อมูลที่เหมือนกัน ภาษาซีจึงมีกฎที่จัดการนิพจน์เหล่านี้อยู่ 2 ประเภท คือ implicit type conversion และ explicit type conversion
implicit type conversion คือ คอมไพเลอร์จะแปลงชนิดข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ จะมีกฎการแปลงดังนี้ ถ้าในนิพจน์ประกอบไปด้วยข้อมูลหลายประเภท ภาษาซีจะทําการแปลงชนิดข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ โดยชนิดข้อมูลที่มีนัยสําคัญตํ่ากว่าจะถูกแปลงไปเป็นชนิดข้อมูลที่มีนัยสําคัญสูงกว่าเสมอ ลําดับของนัยสําคัญของชนิดข้อมูล แสดงจากนัยสําคัญสูงไปนัยสําคัญตํา
explicit type conversion คือ ผู้เขียนโปรแกรมทําการแปลงชนิดข้อมูลหนึ่งไปเป็นอีกชนิดนึ่งด้วยตัวเอง การแปลงชนิดข้อมูลนี้เรียกอีกอย่างว่า cast ซึ่งทําได้โดยระบุชนิดข้อมูลปลายทางที่ต้องการไว้ในวงเล็บ แล้ววางไว้หน้านิพจน์ที่ต้องการแปลงชนิดข้อมูล
(ชนิดข้อมุลปลายทาง)นิพจน์ที่ต้องการแปลงชนิดข้อมูล
ตัวอย่าง
int a;
(float)a;
ตัวหารร่วมมาก (ห.ร.ม.) คือ ตัวหารร่วม (หรือตัวประกอบร่วม) ที่มีค่ามากที่สุด ที่นำไปหารจำนวนนับชุดใด(ตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไป) ได้ลงตัว ต่อไปนี้เราจะเรียกว่าการหา ห.ร.ม. เช่น ห.ร.ม. ของ 8 และ 12 คือ 4 เพราะ 4 คือจำนวนที่มากที่สุดที่หารทั้ง 8 และ 12 ได้ลงตัว
Pull up, Pull down คืออะไร?คือการต่อ ตัวต้านทานที่ขา input ของไมโครคอนโทลเลอร์ เหตุผลที่ต้องต่อคือ ถ้าเราต่อสวิตส์หรือ เซนเซอร์ต่างๆ เข้ากับไมโครคอนโทรเลอร์ตรงๆ อย่างเดียว อาจจะทำให้เกิดสัญญาณรบกวนได้ในกรณีที่ input ถูกลอยขาไว้ ไม่ได้จ่าย logic high หรือ low เช่น การต่อสวิตส์ ถ้าเรากดสวิตส์ จะทำให้มี logic high จ่ายให้กับ input ของไมโครคอนโทลเลอร์ แต่ถ้าเราปล่อยสวิตส์ ทำให้ ขา input ถูกลอยไว้ ไม่ได้ต่อลงกราวหรือ logic low ดังนั้นจึงต้องต่อ Pull up, Pull down เพื่อให้แน่ใจว่าเป็น logic high หรือ low เสมอ ถึงแม้ว่าจะไม่มี input ป้อนเข้ามา
ใน Raspberry pi จะไม่มี Real Time Clock มาให้ เมื่อเราปิดเครื่อง หรือไม่มีไฟฟ้าจ่ายให้กับ Raspberry pi วันที่และเวลาของเครื่องจะไม่เป็นปัจจุบัน วิธีที่จะทําให้เวลาของเครื่องเป็นวันที่ปัจจุบันมีด้วยกัน 2 วิธี ดังนี้ใช้ NTP server (จะต้องเชื่อมต่อกับเครือขาย internet)ใช้ Real time clock (ไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครือขาย internet)ในบทความนี้เราจะอธิบายวิธีใช้ Real time clock เป็นฐานเวลาให้กับ Raspberry pi ก่อนอื่นมารู้จักกันก่อนว่ามันคืออะไร Real time clock เป็น module ฐานเวลา เนื่องจากตัว module ใช้พลังงานจากถ่านกระดุมขนาดเล็กทําให้ตัว module ทํางานอยู่ตลอดเวลาแม้ไม่ได้จ่ายไฟเลี้ยง