LDR (Light Dependent Resistor) คือตัวต้านทานปรับค่าตามแสง ตัวต้านทานชนิดนี้สามารถเปลี่ยนความนําไฟฟ้าได้เมื่อมีแสงมาตกกระทบ โฟโตรีซีสเตอร์ ( Photo Resistor) หรือ โฟโตคอนดัคเตอร์ (Photo Conductor) เป็นตัวต้านทานที่ทำมาจากสารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) ประเภทแคดเมี่ยมซัลไฟด์ ( Cds : Cadmium Sulfide) หรือแคดเมี่ยมซิลินายส์ ( CdSe : Cadmium Selenide) ซึ่งทั้งสองตัวนี้ก็เป็นสารประเภทกึ่งตัวนำ เอามาฉาบลงบนแผ่นเซรามิกที่ใช้เป็นฐานรองแล้วต่อขาจากสารที่ฉาบ ไว้ออกมา โครงสร้างของ LDR
การทํางานของ LDR เมื่อเวลามีแสงตกกระทบลงไปก็จะถ่ายทอดพลังงาน ให้กับสาร ที่ฉาบอยู่ ทำให้เกิดโฮลกับอิเล็กตรอนวิ่งกันพล่าน การที่มีโฮล กับอิเล็กตรอนอิสระนี้มากก็เท่ากับ ความต้านทานลดลงนั่นเอง ยิ่ง ความเข้มของแสงที่ตกกระทบมากเท่าไร ความต้านทานก็ยิ่งลดลงมากเท่านั้น ดังนั้นเมื่อ LDR ถูกแสงตกประทบจะทําให้ ตัว LDR มีความต้านทานลดลง และเมื่อไม่มีแสงตกประทบจะมีความต้านทานมากขึ้น สัญลักษณ์ของ LDR คือ
ตัวอุปกรณ์ของ LDR [gallery link=“none” ids=“6800,6801,6802,6803,6804,6805”] LDR มักถูกนํามาใช้ในวงจร switch ทางแสง ปิด-เปิดไฟด้วยแสง วัดความเข้มแสง ฯลฯ ตัวอย่างการนํา LDR ไปใช้งานเบื้องต้น ลองดูตามวงจรนี้ครับ
จากวงจรเมื่อมีแสงสว่างตกประทบ LDR ค่าความต้านทานของ LDR ลดลง ทําให้แรงดันตกคร่อม LDR ลดลงส่งผลให้ ทรานซิสเตอร์หยุดนํากระแสไฟฟ้า ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน Load แต่เมื่อไม่มีแสงตกกระทบ LDR ค่าความต้านทาน LDR สูงขึ้น แรงดันตกครอม LDR สูงขึ้นทําให้ ทรานซิสเตอร์นํากระแส กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน Load
ขอบคุณข้อมูลจาก sohailansaari.wordpress.com
โดยปกติแล้วเราจะไม่สามารถเรียกใช้งาน docker-compose ได้ตรงๆใน crontab แต่ถ้าต้องการใช้ ให้ใช้วิธีนี้ครับ
สวัสดีครับ ในบทความนี้ผมจะอธิบายวิธีการ config ให้ระบบทําการ clean ข้อมูลของ journal แบบอัตโนมัติ ถ้าท่านใดยังไม่ทราบว่า Journal คืออะไร ให้ย้อนกับไปอ่านในบทความที่แล้ว Journaling file system คืออะไร
สวัสดีครับ Git เป็น Version Control ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการพัฒนา Software ซึ่งจะช่วยติดตาม ตรวจสอบการแก้ไข Source Code และ file ต่างๆ โดยสามารถตรวจสอบได้ทุกตัวอักษร ทุกบรรทัด และทุกไฟล์ ว่าใครเป็นคนแก้ไข แก้ไขอะไรไป แก้ไขวันที่ และเวลาเท่าไร นอกจากนี้ยังสามารถย้อนไปยังการแก้ไข ณ. จุดใดจุดหนึ่งได้อีกด้วย ยังไม่หมดแค่นี้ Git ยังสามารถรวมการแก้ไขจากหลายๆคนเข้าด้วยกันได้อีกด้วย (Merge)