สวัสดีครับ บทความนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้ Docker ผ่าน Proxy เราจะมาดูถึงวิธีการ Config กันครับ ซึ่งวิธีการ Config proxy ให้กับ Docker นั้นไม่ยาก ทําตามขั้นตอนนี้ได้เลย
สร้าง Directory นี้ก่อนครับ “docker.service.d” ด้วยคําสั่ง
mkdir -p /etc/systemd/system/docker.service.d
สร้างไฟล์ “http-proxy.conf” ไว้ใน Directory ที่ถูกสร้างเมื่อสักครู่นี้ โดยใช้คําสั่ง
sudo nano /etc/systemd/system/docker.service.d/http-proxy.conf
ภายในไฟล์จะเป็นคําสั่ง Config proxy ประมาณนี้
[Service]
Environment="HTTP_PROXY=http://user:[email protected]:80/" "NO_PROXY=localhost,127.0.0.1"
Environment="HTTPS_PROXY=https://user:[email protected]:443/" "NO_PROXY=localhost,127.0.0.1"
คําอธิบาย
เมื่อเราใส่ค่า Config เสร็จแล้วก็ Save ให้เรียบร้อย Apply ค่า Config ด้วยคําสั่ง
sudo systemctl daemon-reload
Restart docker ด้วยคําสั่ง
sudo systemctl restart docker
วิธีตรวจสอบการ Config ของเราว่าถูกต้องมั้ย ด้วยคําสั่ง
systemctl show --property=Environment docker
เท่านี้ก็จะสามารถใช้งาน Docker ผ่าน Proxy ได้แล้วครับ
สวัสดีครับ ตอนนี้เป็นตอนที่8 แล้วนะครับ จะเกี่ยวข้องกับ Conditional Rendering ซึ่งก็คือการใช้ if else นั่นเอง โดย Vue ก็ออกแบบมาให้เราใช้งานได้ง่ายครับ โดยเราสามารถใส่ if else ใน Attribute ได้เลย มาดูกันครับว่า Vue ทําอะไรได้บ้าง
ในการสร้าง Chrome Extension หรือเรียกเป็นภาษาไทย "ส่วนขยาย" จะใช้ HTML/CSS/JavaScript ในการเขียน ซึ่งจะคล้ายกับการเขียนเว็บทั่วๆไป ในเมื่อมันเป็น HTML/CSS/JavaScript ก็จับมาเขียนด้วย Vuejs ซะเลย เพื่อให้ง่ายต่อการพัฒนา
การคํานวณหาค่าคามต้านทานในวงจรผสม(ทั้งขนาน และอนุกรมรวมกันในวงจร) นั้นสามารถทําได้โดยยุบวงจรไปทีละส่วนไปเรื่อยๆ จนได้ค่าความต้านทานรวมทั้งหมด ถ้ายังนึกภาพไม่ออก มาดูตามตัวอย่างนี้ได้เลยครับ ตัวอย่าง ถ้าต้องการหาค่าความต้านทานรวม(RT) ของวงจรนี้