ระบบ File และ Directory ใน Ubuntu จะมีการกําหนดสิทธิ์การ Read, Write และ Execute ของ User โดยจะสามารถดูได้จากคําสั่งนี้
ls -l
จะได้ออกมาตามรูปด้านล่าง
จากรูปจะแสดงผลออกมาเป็นข้อมูลต่างๆ แต่ในบทความนี้เราจะสนใจแค่ 2 คอลัมน์ คือในกรอบสีแดง และสีเขียว รายละเอียดมีดังนี้
ในกรอบสีแดงจะบอกถึงสิทธิ์การใช้งานไฟล์ของ User ชนิดต่างๆ โดยจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ
จากในรูปตัวอย่าง “testDirectory” มีสิทธิ์การเข้าใช้งานเป็น “drwxrwxr-x” วิธีการอ่านคือ เราจะต้องแบ่งออกเป็น 4 ส่วนดังนี้ [d] [rwx] [rwx] [r-x] โดยแต่ละส่วนจะมีความหมายดังนี้
เมื่อรู้ความหมายของแต่ละส่วนแล้ว จะเห็นว่ามีตัวอักษร r, w, x โดยแต่ละตัวจะมีความหมายคือ
ตัวอย่าง “drwxrwxr-x” หมายความว่า เป็น Directory User เจ้าของไฟล์ และUser กลุ่มเดียวกัน สามารถ อ่าน เขียน Execute ได้ แต่ ผู้ใช้อื่นๆ(ทุก user) ไม่สามารถเขียนไฟล์ ได้
ในกรอบสีเขียวจะบอกถึงชื่อของ User เจ้าของไฟล์ และ Group User วิธีการอ่านคือ คอลั่มน์แรกจะบอกว่าชื่อของ User เจ้าของไฟล์คือใคร คอลั่มน์ที่สองจะบอกชื่อของ Group User อะไร ตัวอย่าง “thiti mygroup” หมายความว่า เจ้าของไฟล์ชื่อว่า thiti และกลุ่มที่จะเข้าใช้งานไฟล์นี้ชื่อว่า mygroup
หลังจากที่เขียนบทความเรื่อง วิธีสร้าง VM Instance ใน google developers console ผมยังไม่ได้อธิบายวิธีการใช้ PuTTy เชื่อมต่อไปยัง google instance ในบทความนี้ผมจะมาอธิบายวิธีเชื่อมต่อ PuTTy ไปยัง google instance อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีดังนี้โปรแกรม PuTTy ถ้ายังไม่มีโหลดได้ที่นี่-->Clickโปรแกรม PuTTYgen ถ้ายังไม่มีโหลดได้ที่นี่-->Click
file_get_contents() เป็น function ภาษา PHP ใช้สําหรับดึงข้อมูลจากไฟล์ หรือ url มาดูตัวอย่างการใช้งานกันเลยครับ
สวัสดีครับ บทความนี้จะเป็นการเรียนรู้และ ทําความเข้าใจในส่วนของเรื่อง Props children ใน React รวมไปถึงวิธีการใช้งานในแบบต่างๆ