สวัสดีครับ ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับค่า CRI กันครับ และค่าความถูกต้องของสีมีความสําคัญอย่างไร เอาไว้ทําอะไร
ค่า CRI คืออะไร
ค่า CRI ย่อมาจาก Color Rendering Index คือ เป็นการวัดค่าความถูกต้องของสีที่เกิดจากการส่องสว่างของแสงที่ไปกระทบกับวัตถุต่างๆ ซึ่งในแต่ละแหล่งกําเนิดแสงจะให้ค่าของ CRI หรือความความถูกต้องของสีที่แตกต่างกันไป
ค่าของ CRI จะมีตั้งแต่ 0-100 โดยที่ 100 หมายถึงสีของวัตถุที่เรามองเห็นจะมีความถูกต้อง และใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด โดยจะอ้างอิงจากแสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน ซึ่งค่า CRI น้อยมากเท่าใด ค่าความถูกต้องของสีก็จะน้อยมากเท่านั้น มาดูตัวอย่างกันครับ
ทําไมใช้แสงอาทิตย์เป็นค่าอ้างอิงความถูกต้องของสี?
เนื่องจากแสงอาทิตย์มีส่วนประกอบของสีหลักครบทั้ง 7 เชดสี ทำให้เมื่อแสงแดดส่องลงบนวัตถุใดๆ เราก็จะสามารถเห็นสีที่แท้จริงของวัตถุเหล่านั้นสะท้อนเข้าตาเราได้ครบทุกเชดสี และมีความถูกต้องมากที่สุด
หลอดไฟกับค่า CRI
หลอดไฟแต่ละชนิดจะให้ค่า CRI ไม่เท่ากัน หลอดไฟโดยทั่วไปจะมีค่า CRI อยู่ระหว่าง 70-80 ก็ถือว่าเป็นที่ยอมรับได้ แต่ถ้าใช้งานเฉพาะทางที่ต้องการความแม่นยําของสีอาจจะใช้หลอดไฟที่สูงๆถึง 95-100
มาดูตัวอย่างค่า CRI ของ ลอดไฟแบบต่างๆดังนี้
- LED: >90
- หลอดอินแคนเดสเซนต์: >90
- หลอดทังสเตนฮาโลเจน: >90
- หลอดฟลูออเรสเซนต์: 60-90
- หลอดแสงจันทร์: 80-90
บางครั้งอาจจะเห็นระบุในสินค้าบางอย่างที่เกี่ยวข้องกันแสง เช่นหลอดไฟ หรือโคมไฟต่างๆ
พอถึงจุดนี้เมื่อเราเห็นระบุค่านี้ที่ไหนเราจะสามารถเข้าใจได้ว่ามันคืออะไร และเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับงานครับ
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ: