สวัสดีครับ บทความนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้งาน || และ ?? ในภาษา JavaScript ครับ ซึ่งการใช้งานโดยทั่วไปจะมีความคล้ายๆกัน แต่จะมีรายละเอียดเล็กน้อยที่มีความต่างกัน ถ้าเราไม่ทราบอาจจะทําให้ Code ที่เราเขียนมี Bug ได้
เรามาเริ่มกันตรงที่การใช้งานโดยทั่วไปกันก่อนครับ โดยปกติเวลาเราต้องการเลือกใช้ข้อมูลที่ไม่ใช่ค่า null จากสองตัวแปรเราสามารถเขียนแบบสั้นๆโดยไม่ต้องใช้ if…else ได้โดยใช้ || และ ?? ตามตัวอย่างนี้ครับ
const a = null;
const b = 'this is b';
const result1 = a || b;
const result2 = a ?? b;
// Output
// result1: this is b
// result2: this is b
จาก Code ด้านบนหมายความว่า ทั้ง result1 และ result2 จะมีค่าเท่ากับ a ก็ต่อเมื่อ a != null หรือถ้า a == null ทั้ง result1 และ result2 จะมีค่าเท่ากับ b ทันที
ในตัวอย่างก็ดูให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงทั้ง || และ ?? มีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยครับ ลองดูตามตัวอย่างนี้ครับ
const a = '';
const b = 'this is b';
const result1 = a || b;
const result2 = a ?? b;
console.log('result1: ', result1);
console.log('result2: ', result2);
// Output
// result1: this is b
// result2:
ถ้าเราเปลี่ยน a ให้มีค่าเป็น "" ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาต่างกันดังนี้คือ result2 จะมีค่าเท่ากับ "" เนื่องจาก ?? จะมองว่า "" ไม่มีค่าเป็น null จึงทําให้ result2 ได้ค่าของ a ไป นั่นก็คือ "" นั่นเอง
|| และ ?? ต่างกันตรงที่ ?? จะมองว่า null และ "" เป็นคลละตัวกัน ในทางกลับกัน || จะมองว่า null และ "" เป็นตัวเดียวกัน จึงทําให้ผลลัพธ์ออกมาแตกต่างกัน
Serial เป็นรูปแบบการสื่อสารแบบ Asynchronous ชนิดหนึ่งที่ Arduino นํามาใช้ในการสื่อสารกับ Device อื่นๆ เช่น Computer, Arduino, Module Sensor ต่างๆ หรืออุปกรณ์อะไรก็ตามที่รองรับการส่งข้อมูลแบบ Serial สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมของการสือสารแบบ Serial อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบนความนี้ครับ TTL UART RS232 คืออะไร
สวัสดีครับ ในบทความนี้เราจะมาทําความรู้จักกับ Podman กัน ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สําหรับผู้ที่ใช้งาน Docker โดยเราจะมาดูกันว่า Podman คืออะไร และมีความแตกต่างจาก Docker อย่างไร
BASE64 คืออะไรBASE64 คือ วิธีการเข้ารหัสข้อมูลรูปแบบหนึ่ง ที่จะเปลี่ยนข้อความ หรือข้อมูลต้นฉบับไปเป็นข้อความ หรือข้อมูลชุดใหม่ ที่ไม่สามารถอ่าน หรือรู้ว่าข้อมูลชุดนี้คืออะไร ซึ่งการเข้ารหัสชนิดนี้จะแทนที่ข้อมูลด้วยตัวอักษร 64 ตัว นั่นคือที่มาของ BASE64 ตามตารางImageวิธีการเข้ารหัส BASE64ยกตัวอย่างที่ต้องการเข้ารหัสข้อความนี้ "abcd" จะมีขั้นตอนคือ1.นําข้อมูลที่ต้องการเข้ารหัสมาแปลงเป็นเลขฐานสอง 8 bita = 01100001b = 01100010c = 01100011d = 011001002.นําเลขฐานสองที่ได้มาเรียงต่อกันตามลําดับดังนี้01100001 01100010 01100011 011001003.แบ่งเลขฐานสองออกเป็นชุด ชุดละ 6 bit กรณีที่ชุดสุดท้ายไม่ครบ ให้เติม 0 ไปจนครบ 6 bit จะได้ดังนี้01100001 01100010 01100011 01100100 00004. นําเลขฐานสองที่แบ่งไว้มาแปลงเป็นตัวอักษรตามตาราง BASE64 (ตามรูปด้านบน) โดยใน BASE64 จะนับ bit ที่ถูกเติมเข้าไปที่เป็น 00 แทนด้วย "="011000 = "Y"010110 = "W"001001 = "J"100011 = "j"011001 = "Z"000000 = "A=="** bit ที่ถูกเติมเข้าไปที่เป็น 00 แทนด้วย "=" 5.นําตัวอักษรมาเรียงต่อกันตามลําดับ YWJjZA==วิธีการถอดรหัส BASE64วิธีการถอดรหัส BASE64 ก็ไม่ยาก ทําย้อนกลับครับให้นําข้อมูลมาแปลงเป็นฐานสอง 6 bit มาเรียงต่อกันก่อน แล้วนํามาจัดกลุ่ม กลุ่มละ 8 bit โดย bit สุดท้ายที่เหลือไม่ครบ 8 bit ให้ตัดทิ้ง หลังจากนั้นก็แปลงเลขฐานสอง 8 bit แต่ละชุดเป็นข้อมูล ASCII เท่านี้ก็จะได้ข้อมูลต้นฉบับแล้วครับ