สวัสดีครับ วันนี้ผมเจอกรณีที่คนเข้าเว็บมาด้วย Domain อื่นๆ ที่ไม่ใช่ของเรา แต่เป็นหน้าเว็บเราเฉยเลย ทําให้ Domain อื่นๆของใครก็ไม่รู้ สวมรอยเป็นเว็บเราได้อย่างเช่นกรณีนี้
เป็นเว็บของผมเองครับ แต่ใครก็ไม่รู้ tinycolor.com ทําการ point มาที่เว็บผม โดย น่าจะ point มาที่ ip ของ server ก็เป็นอย่างที่เห็นในรูป T_T ผมลองหาข้อมูลในการแก้ปัญหานี้+คําแนะนําของพี่ artit-k.com สรุปได้ว่า แก้ไขค่า config ของ nginx (อยู่ที่ file “/etc/nginx/nginx.conf”) เพื่อบังคับให้ Request ไดๆ ก็ตามมาที่ port 80 ถ้าไม่ตรงกับ Domain ที่เรากําหนดไว้ ให้ redirect 301 ไปยัง url ที่เรากําหนดไว้ หรือไม่ตอบกลับเลยก็ได้ ตามตัวอย่างค่า config ดังนี้
http {
...
# For some invalid name or ip
server {
listen 80 default_server;
server_name _; # some invalid name that won't match anything
return 301 ;
}
include /etc/nginx/conf.d/*.conf;
}
จุดสําคัญอยู่ที่ return 301 ; ความหมายคือ redirect 301 ไปที่ ซึ่ง 301 ก็คือ response code ซึ่ง 301 หมายความว่า ย้าย domain ไปที่… ศึกษา response code เพิ่มเติมที่ en.wikipedia.org/wiki/List_of_HTTP_status_codes
ถ้าไม่ต้องการให้ตอบกลับเลยก็ใช้ return 444; ได้เลยครับ ซึ่ง 444 เป็น response code หมายถึงไม่ตอบอะไรกลับไปเลย
pointer เป็นชนิดข้อมูลประเภทหนึ่งที่สร้างจากชนิดข้อมูลแบบพื้นฐานทั่วไป โดยชนิดข้อมูลแบบ pointer จะแตกต่างกับชนิดข้อมูลพื้นฐานตรงที่ชนิดข้อมูลแบบพื้นฐานจะเก็บและดึงข้อมูลจากตัวแปรโดยตรง แต่ชนิดข้อมูลแบบ pointer จะเก็บค่าที่อยู่(Address) ของตัวแปรอื่น และใช้ค่าที่อยู่นี้อ้างอิงไปยังข้อมูลที่เก็บอยู่ในตัวแปรนั้นอีกที เพื่อทําการเก็บและดึงข้อมูลจากตัวแปรนั้นอีกที
โดยปกติแล้ว Class ต่างๆจะมี Method เป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่ถ้าเราต้องการจะเขียน Method เพิ่มเติมเข้าไป ในกรณีที่เราเป็นเจ้าของ Source code เราสามารถแก้ไข Source code ของเราได้เลย แต่ถ้าในกรณีที่เราไม่ได้เป็นเจ้าของ Source code เรามีเพียงแค่ dll ไฟล์เท่านั้น เราจะทําอย่างไร? ใน .net 3.0 ขึ้นไป เราสามารถเพิ่ม Method เสริมให้กลับ Class ที่ถูกสร้างไว้แล้วได้ โดยจะเรียกว่า Extension Method
สวัสดีครับ สําหรับทความนี้จะเกี่ยวข้องกับ มาตรฐานของ RSS 2.0 ก่อนอื่นมาดูตัวอย่าง xml ของ RSS 2.0 กันก่อน