Template Literals คือ ความสามารถหนึ่งของ javascript ที่เราสามารถใช้ String ภายในเครื่องหมาย grave accent (อยู่ที่ปุ่มเปลี่ยนภาษา) ได้เช่น
let str = `My String`;
ข้อดีของมันก็คือ มันสามารถแทรกตัวแปรเข้าไปแบบนี้ได้เลย
let myStr = `My name is: ${name}`;
ภายใน ${} จะเป็นการใช้การประมวลผลของ javascript ครับ ดังตัวอย่าง
console.log(`1 and 1 make ${1 + 1}`); // ได้ผลเป็น 1 and 1 make 2
ความเจ๋งของ template literals ยังมีอีกอย่างหนึ่งครับ คือมันสามารถ run function ได้ ซึ่งเราจะเรียกมันว่า tag ไปดูตัวอย่าง Code ได้เลยครับ
const myTag = (literals, ...args) => {
console.log('Literals: ', literals);
console.log('args: ', args);
return 'Result from myTag';
};
const fname = 'Thiti';
const lname = 'Yamsung';
const result = myTag `Hello ${fname}${lname}!`;
console.log(result); //Output -> Result from myTag
จะได้ผลลัพธ์คือ
Pull up, Pull down คืออะไร?คือการต่อ ตัวต้านทานที่ขา input ของไมโครคอนโทลเลอร์ เหตุผลที่ต้องต่อคือ ถ้าเราต่อสวิตส์หรือ เซนเซอร์ต่างๆ เข้ากับไมโครคอนโทรเลอร์ตรงๆ อย่างเดียว อาจจะทำให้เกิดสัญญาณรบกวนได้ในกรณีที่ input ถูกลอยขาไว้ ไม่ได้จ่าย logic high หรือ low เช่น การต่อสวิตส์ ถ้าเรากดสวิตส์ จะทำให้มี logic high จ่ายให้กับ input ของไมโครคอนโทลเลอร์ แต่ถ้าเราปล่อยสวิตส์ ทำให้ ขา input ถูกลอยไว้ ไม่ได้ต่อลงกราวหรือ logic low ดังนั้นจึงต้องต่อ Pull up, Pull down เพื่อให้แน่ใจว่าเป็น logic high หรือ low เสมอ ถึงแม้ว่าจะไม่มี input ป้อนเข้ามา
สวัสดีครับ ปกติเวลาเริ่มใช้งาน Raspberry Pi หลังจากที่ติดตั้ง OS ใน SD Card แล้ว SSH จะถูก Disable ไว้ ซึ่งเป็น Default ถ้าเราต้องการใช้งานก็จะต้องไป Config เพื่อเปิดมัน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ใช้งาน Raspberry Pi ส่วนใหญ่จะต้องใช้งาน SSH อยู่แล้ว
Docker เป็น engine ที่รันบน Linux ตัวนึงที่จะจําลองสภาพแวดล้อมของเครื่อง server ขึ้นมา คล้ายๆกับพวก VirtualBox, VMWare หรือ Virtual Machine ซึ่ง Docker จะแตกต่างจาก VM ตัวอื่นๆคือ **จะทําการจําลองสภาพแวดล้อมของ server ขึ้นมาบน OS เดิม **แต่ VM อื่นๆ จะจําลองระบบขึ้นมาทั้ง OS เลย ดังรูป