สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านย้อนอดีตไปยังสมัยที่ CD ยังฮิตๆ กัน การดูหนัง ฟังเพลง เล่นเพลง mp3 โปรแกรมต่างๆ ก็จะถูกเก็บใน CD ทั้งนั้น แต่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไร บางคนอาจจะมี CD-ROM เก่าๆไม่ได้ใช้แล้วไม่รู้จะเอาไปทําอะไร เอามาทําเครื่องเล่น CD เพลงได้ครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายวิธีการทําครับ แต่ก่อนอื่นมาดูอุปกรณ์กันก่อนว่ามีอะไรบ้าง
ถ้ามี Power Supply อยู่แล้วไม่ต้องใช้อุปกรณ์ข้อ 3-6 เนื่องจากข้อ 3-6 จะใช้ทําวงจรจ่ายไฟให้กับ CD-ROM
เรามาดูกันก่อนว่า CD-ROM แบบไหนสามารถนํามาทําได้บ้าง ให้สังเกต 2 ข้อดังนี้
ถ้ามีข้อใดข้อหนึ่งแสดงว่าใช้ได้
ผมจะแยกวิธีทําเป็น 2 แบบดังนี้
สําหรับท่านที่มี Power supply อยุ่แล้วสามารนําสายตามรูปด้านล่าง (สายที่ออกมาจาก Power Sypply)มาเสียบตรง Power connector ของ CD-ROM ได้เลย
สายที่มาจาก Power supply เมื่อเสียบปลั๊กไฟของ Power supply แล้ว Power supply จะยังไม่ทํางาน วิธีที่จะทําให้ Power supply ทํางานคือเชื่อต่อระหว่างสายสีเขียวกับสายสีดํา(สายที่ออกมาจาก Power supply)ดังรูป
สําหรับสัญญาณเสียงจะออกทางช่อง Audio jack (4) หรือ Analog audio (1)
สําหรับวิธีการทํา Power supply เองนั้นจําเป็นจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ Electronic เบื้องต้นบ้างนะครับ ทําวงจรตามนี้ได้เลยครับ เป็นวงจรเร็กติไฟเออร์ + Regulator ครับ
แล้วนําไปเสียบกับ Power connector ของ CD-ROM ได้เลยครับ สําหรับสัญญาณเสียงจะออกทางช่อง Audio jack (4) หรือ Analog audio (1)
เรียบร้อยครับ CD-ROM เก่าๆที่ถูกวางทิ้งไว้ ก็กลับมามีประโยชน์อีกครั้ง :)
สําหรับแผ่นที่สามารถเล่นได้จะเป็นแผ่น Audio เท่านั้นนะครับ mp3 จะไม่สามารถเล่นได้
ข้อมูลและรูปภาพจาก www.computerhope.com www.circuitstoday.com
ระบบ File และ Directory ใน Ubuntu จะมีการกําหนดสิทธิ์การ Read, Write และ Execute ของ User โดยจะสามารถดูได้จากคําสั่งนี้ls -lจะได้ออกมาตามรูปด้านล่างImageจากรูปจะแสดงผลออกมาเป็นข้อมูลต่างๆ แต่ในบทความนี้เราจะสนใจแค่ 2 คอลัมน์ คือในกรอบสีแดง และสีเขียว รายละเอียดมีดังนี้
BASE64 คืออะไรBASE64 คือ วิธีการเข้ารหัสข้อมูลรูปแบบหนึ่ง ที่จะเปลี่ยนข้อความ หรือข้อมูลต้นฉบับไปเป็นข้อความ หรือข้อมูลชุดใหม่ ที่ไม่สามารถอ่าน หรือรู้ว่าข้อมูลชุดนี้คืออะไร ซึ่งการเข้ารหัสชนิดนี้จะแทนที่ข้อมูลด้วยตัวอักษร 64 ตัว นั่นคือที่มาของ BASE64 ตามตาราง
ชนิดของข้อมูลในภาษาซีคือ ตัวกําหนดขอบเขต และลักษณะของข้อมูลนั้นๆ ข้อมูลที่มีชนิดต่างกันก็จะเก็บข้อมูลในลักษณะที่ต่างกัน และขอบเขตของข้อมูลก็จะไม่เท่ากันด้วย