กฎของโอห์ม คือสูตรการคํานวณ ความสัมพันธ์ ระหว่าง กระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า และความต้านทานไฟฟ้า กล่าวคือ กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวนำใดๆ แปรผันโดยตรงกับความต่างศักย์ (แรงดันไฟฟ้า หรือแรงดันตกคร่อม คือกระแสมีค่ามากหรือน้อยตามความต่างศักย์นั้น) เขียนเป็นสมการได้ว่า
V ∝ I และกระแสไฟฟ้าจะแปรผกผันกับความต้านทานระหว่างสองจุดนั้น(คือถ้าความต้านทานมากจะทำให้กระแสไหลผ่านน้อย, ถ้าความต้านทานน้อยจะทำให้มีกระแสมาก) เขียนเป็นสมการได้ว่า I ∝ 1/R นำสูตรสมการทางคณิตศาสตร์ทั้งสองมารวมกัน, เขียนได้ดังนี้: I = V/R
Ohm-law
คุณอาจจะสงสัยว่าจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ผมจะยกตัวอย่างกรณีศึกษานี้ คือ ถ้าคุณอยากจะนํา LED ดวงเล็กๆ ไปต่อกับ Batterry ขนาด 12V จากที่เราทราบกันดีว่า หลอด LED ใช้แรงดันไฟฟ้าประมาณ 3V และใช้กระแสไฟฟ้าประมาณ 10mA ถ้าเราเอาไปต่อกับ Battery 12V ตรงๆ มันจะพังครับ แล้วเราจะทําอย่างไรละ? แน่นอนครับ ใช้ ตัวต้านทานต่อ เพื่อลดกระแสไฟฟ้า และแรงดัน ให้เหมาะสมกับ LED ปัญหาที่ตามมาคือ แล้วเราจะใช้ ตัวต้านทานค่าเท่าไร ตรงนี้แหละครับ ความรู้ กฎของโอห์ม ที่เราเรียนมา มันช่วยเราได้ ก่อนอื่นให้ดูรูปวงจรก่อนครับ
Ohm’s law จากวงจรให้เรา กําหนดค่าต่างๆขึ้นมาเอง ตามอุปกรณ์ที่เราเลือกใช้ เช่น LED ใช้แรงดัน 3V เราก็จะกําหนดให้มีแรงดันตกคร่อม 3V ตัวอย่างการกําหนดค่าทั้งหมดมีดังนี้
Ohm’s law เมื่อเรากําหนดค่าทั้งหมดแล้ว เราก็จะใช้ กฎของโอห์ม ในการหาค่า R ตามสูตรนี้ R = V / I
แทนค่า R = 9V / 0.01A R = 900 โอห์ม เท่านี้เราก็จะได้ค่าของตัวต้านทานแล้วครับ :)
ในตอนที่ 7 นี้จะเกี่ยวกับเรื่อง Class and Style Bindings ใน vue.js ครับ ในการจัดการ Class และ Style เราสามารถใช้ v-bind ได้ เพื่อให้เราสามารถใส่ Logic หรือ ตัวแปรลงไปได้ ทําให้เราสามารถทํา Class และ Style แบบ Dinamic ได้ง่ายขึ้น
PL2303 USB to serial TTL เป็น อุปกรณ์ที่ใช้แปลงจาก USB เป็น serial TTL ส่วนใหญ่จะนําไปใช้เชื่อมต่อ Computer เข้ากับ Raspberry pi
จากบทความ C++ OOP การสร้าง Class และการใช้งาน Class ผมอธิบายถึงการสร้าง Object แบบ Stack แต่ในบทความนี้ผมจะอธิบายเรื่องการสร้าง Object โดยใช้ Pointer ข้อแตกต่างกันคือ การสร้าง Object แบบ Stack จะคล้ายๆกับเราสร้างตัวแปรขึ้นมาตัวนึงเมื่อใช้งานเสร็จหรือจบโปรแกรม ระบบจะคืน memory หรือทําลาย Object นั้นทิ้งให้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าสร้าง Object แบบ Pointer จะไม่ทําลาย Object ให้เราเมื่อจบโปรแกรม เราจะต้องเป็นคนทําลาย Object เอง ทําสั่งที่ใช้ ทําลาย Object คือ "delete" ตามด้วย Object ที่ต้องการลบ _ถ้าเราไม่ลบ Object ที่เราสร้างขึ้น ระบบจะไม่สามารถเข้าใช้งาน memory ในส่วนนั้นได้ ทําให้เกิด memory leak _