สวัสดีครับ จะเป็นบทความสั้นๆนะครับ ที่เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับสอง Option นี่คือ Data และ Methods ซึ่งผมจะอธิบายไปที่ละตัวพร้อมกับยกตัวอย่างครับ ดังนี้
ถ้าจะพูดแบบง่ายๆ Data เป็นที่สําหรับเก็บข้อมูล หรือ State ของ Component เมื่อใดที่ Data เปลี่ยน Component นั้นๆ จะทําการ Render component ใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลง UI ให้แสดงผลตามที่ถูกเปลี่ยนแปลงไป
Methods คือ เป็นที่สําหรับเก็บ Funtion การทํางานทั้งหมด ของ Component เช่น Function คํานวณค่าต่างๆ, Function ในการดึงข้อมูล, Function สําหรับ Event ต่างๆ ฯลฯ ตามแต่ความต้องการครับ
เพื่อให้เข้าใจการทํางานของ Data และ Methods มากขึ้น ผมสร้าง Component ตัวอย่าง ที่มีลักษณะดังนี้ หน้าจอมีการแสดงผล Counter และปุ่ม “Click to increase” โดยมีการทํางานคือ ทุกๆครั้งที่กดปุ่ม “Click to increase” จะเพิ่ม Counter ขึ้นที่ละ 1 ตัวอย่างหน้าจอตามรูป
ตัวอย่าง Source code
<template>
<div>
Counter: {{ counter }} <br />
<button type="button" v-on:click="increase()">Click to increase</button>
</div>
</template>
<script>
export default {
name: 'MyComponent',
data: function () {
return {
counter: 0
}
},
methods: {
increase: function () {
this.counter++
}
}
}
</script>
จาก Code ด้านบน จะมี data ซึ่งจะเก็บค่า counter ไว้ โดยมีค่าเริ่มต้นเป็น 0 ซึ่ง counter จะถูกนําไปแสดงผลใน template ด้านบนด้วย ส่วน methods ผมสร้าง Function ที่ชื่อว่า increase มีการทํางานภายในคือ ไปเพิ่มค่า counter ซึ่งในตัวอย่างเราใช้ this ในการอ้างถึง data ตัวอย่างเช่น this.counter เราสามารถนํา methods ที่เราสร้างขึ้น ไปใส่ใน Event ได้เลย ใน Code ตัวอย่างด้านบน ผมเอาไปใส่ใน onClick ของปุ่มกด ประมาณนี้ v-on:click=“increase()” การใช้งาน และการทํางานของ Data และ Methods ก็ประมาณนี้ครับ สองตัวนี้จะใช้งานค่อนข้างบ่อยครับ ลองศึกษาและ ประยุกต์ใช้งานดูครับ ผมก็ขอจบไว้แค่นี้ครับ :)
สวัสดีครับ ในบทความก่อนหน้านี้ผมได้อธิบายว่า docker คืออะไร และ วิธีติดตั้ง Docker engine ไปแล้ว ถ้าใครยังไม่ได้อ่านก็กลับไปอ่านก่อนนะครับ ในบทความนี้จะเกี่ยวข้องกับการสร้าง Docker Image ก่อนอื่นมาทําความเข้าใจอีกซักนิดเกี่ยวกับ Docker Image กันก่อน
ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่เปิดเผยสู่สาธารณะหรือเรียกกันว่า Surface Web เพียง 4% ซึ่งสามารถค้นหาผ่าน Search engine ทั่วไปได้เช่น google ฯลฯ แต่ที่เหลือ 96% เป็นเว็บไซต์ที่ซ่อนตัวอยู่ ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยวิธีปกติ หรือเรียกกันว่า Deep web และ Dark web ความแตกต่างระหว่าง Surface Web, Deep web และ Dark web คือ
ประเภท SSL ของ CloudflareImageการใช้งาน SSL ใน Cloudflare แบ่งออกเป็น 4 ประเภทOff -> ก็คือการปิดการทำงานของ SSLFlexible SSL จะเป็นการเข้ารหัสจาก User ถึง CloudflareFull SSL จะเป็นการเข้ารหัสทั้งจาก User ถึง Cloudflare จะจาก Cloudflare ถึง Server เรา (ใช้ใบรับรองแบบ Self-signed ได้)Full SSL (strict) จะเป็นการเข้ารหัสทั้งจาก User ถึง Cloudflare จะจาก Cloudflare ถึง Server เรา ซึ่งจะต้องใช้ใบรับรองที่ได้รับการยอมรับจาก Root CAข้อมูลจาก cloudflare